วันอังคารที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

KFC ปลาปี๊ด

      หลายคนคงจะเคยเวลาที่เห็นโฆษณาอาหารทางโทรทัศน์แล้วอยากรับประทานอาหารที่โฆษณานั้นขึ้นมาทันที ไม่เพียงแต่โฆษณาทางโทรทัศน์เท่านั้น ที่ทำให้ผู้บริโภครู้สึกอยากรับประทานอาหาร  โปสเตอร์ ก็เป็นอีกช่องทางหนึ่ง ในการโฆษณาให้ถึงผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี



.....ในเมื่อผมกำลังทำงานพาร์ทไทม์อยู่ที่ KFC.....
 ............ โปสเตอร์ที่จะนำมาเสนอในครั้งนี้............
......คงไม่พ้นสินค้าจากเคเอฟซีอย่างแน่นอน......
...และเหตุผลที่เลือกโปสเตอร์นี้มาให้ดูก็เพราะ...
..การสื่อความหมายที่ชัดเจน และตรงไปตรงมา..





แค่เพียงเห็นโปสเตอร์นี้ครั้งแรก ก็เหมือนจะสามารถรู้รสชาดของสินค้าชิ้นนี้ได้เป็นอย่างดี ด้วยภาพของมะนาวและพริกที่อยู่รอบๆโปสเตอร์ การตกแต่งสินค้าที่เป็นอาหารให้เหมือนกับปลาในการ์ตูน ก็เป็นการทำให้โปสเตอร์นี้ดูน่าสนใจยิ่งขึ้น มาพร้อมกับสโลแกนประจำตัวของสินค้าที่ยิ่งเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้บริโภคว่า....
หากลองรับประทานดูแล้วต้อง
เผ็ดเปรี้ยวปี๊ด!!!   จี๊ด...เต็มคำ อย่างแน่นอน







     




โปสเตอร์บางชิ้น อาจไม่ได้สื่อความหมายออกมาชัดเจนอย่างที่โปสเตอร์ชิ้นนี้ อยากให้ทุกคนสังเกตสิ่งๆต่างๆที่อยู่รอบตัวเราให้ดี    อาจเห็นความหมายที่ผู้ทำต้องการสื่อถึงคุณโดยเฉพาะอยู่ก็เป็นได้!!


วันพุธที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

“ชีวิตผมรอดได้ด้วยสตาร์บัคส์”

          คนที่เปิดมาเจออาจสงสัย ว่าหนังสือเล่มนี้เกี่ยวกับอะไรหรอ รอดตายได้ยังไง?? เพราะสตาร์บัคส์เนี่ยนะ !! กินกาแฟแล้วเจอทองคำในแก้วหรืออย่างไร ?? หนังสือเล่มนี้คงเป็นเรื่องราวที่ไม่ได้หวือหวาราวกับที่อ่านในหนังสือเทพนิยายขนาดนั้น แต่เต็มไปด้วยเรื่องราวการใช้ชีวิตของชายคนหนึ่ง ที่ชีวิตของเขาพลิกผันมากเกินไปหน่อย...ก็เท่านั้นเอง





         ครั้งแรกที่ได้เห็นหนังสือ ผมก็เกิดความแปลกใจอยากรู้ในสิ่งที่อยู่

ข้างในของหนังสือ เหมือนๆกับที่ได้เขียนไว้ข้างบน ยิ่งช่วงนั้นแล้ว

สตาร์บั๊คส์กำลังดังมากๆอยู่ในเมืองไทย ยิ่งเป็นตัวทำให้ผมรู้สึกอยากรู้

สิ่งที่อยู่ข้างในหนังสือนั้นมากขึ้นไปอีก  และเมื่อได้เริ่มอ่านแล้วก็

ไม่รู้สึกผิดหวังเลยที่ได้เลือกหนังสือเล่มนี้ เราลองมาดูกันดีกว่าว่า

ภายในของหนังสือเล่มนี้นั้นมีอะไรอยู่บ้าง



หนังสือเล่มนี้ว่าด้วยชีวิตและความโกลาหลของ ไมเคิล เกทส์ กิลล์ อดีตนักโฆษณาอาวุโสที่ถูกยื่นซองขาวหลังจากทำงานให้บริษัทโฆษณาข้ามชาติอย่าง เจ วอร์เตอร์ ทอมสัน มานานกว่า ๓๕ ปี จนเช้าวันหนึ่ง.. อดีตลูกน้องที่ ไมเคิล รับเข้ามาทำงานกับมือนัดเขาทานมื้อเช้า แม้กิลล์จะพอระแคะระคายเรื่องความเปลี่ยนแปลงภายในบริษัทหลังจากผู้บริหารรุ่นหนุ่มเข้ามาบริหารแทนกลุ่มผู้บริหารเก่าที่ขายหุ้นออกไป แต่เขาก็ไม่คิดว่าจะได้ยินประโยคนี้..
ไมเคิลลินดาพูด ฉันมีข่าวร้าย” ...
บอกมาเถอะไมเคิลพูดอย่างไม่อาจเลี่ยงได้
เราต้องปล่อยคุณไปนะคะไมเคิลเธอประกาศออกมาราวกับหุ่นยนต์เพื่อป้องกันตัวเอง เธอคงยุ่งยากใจมากกว่าจะพูดออกมาได้ โดยเฉพาะกับการใช้คำว่า เรา
ไม่รู้ว่าไมเคิลจะเจ็บปวดสักแค่ไหนที่อดีตลูกน้องที่สั่งสอนมากับมือ รับหน้าที่บอกข่าวร้ายแก่เขา หลังอาหารเช้ามื้อนั้น ความรุ่งโรจน์ ชื่อเสียง เกียรติยศ และเงินทองที่สั่งสมมาตลอดระยะเวลานานก็กลายเป็นอดีต
อันที่จริงแล้ว ไมเคิลไม่เคยสะสมเงินทองเสียด้วยสิ  ก็แน่ล่ะ รายได้ ๖ หลักระดับผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ เดี๋ยวบินไปนั่น เดี๋ยวบินไปนี่ พบปะกับลูกค้าระดับโลกมากมาย ใช้ชีวิตอยู่ในระดับหัวแถว ใครจะมาคิดล่ะ ว่าวันนี้จะมาถึง
ไมเคิลในวัยเกือบ ๖๐ ถูกเชิญออกจากงานชนิดที่มีคนเก็บข้าวของในห้องทำงานให้เรียบร้อย ระหว่างที่หางานอื่นทำโดยที่ไม่บอกภรรยาและลูกๆว่าบัดนี้เขากลายเป็นคนเร่ร่อนหางานทำ ไมเคิลยังคงแต่งสูทโก้หรูออกจากบ้านเหมือนเคย แต่คราวนี้เขาตรงไปนั่งจมปลักอยู่ที่ฟิตเนส หลังจากนั่งไปนั่งมาอยู่หลายวัน ท่าไหนก็ไม่รู้ ดันเผลอไปทำสาวคนหนึ่งท้องไส้ขึ้นมา (เธอยืนยันนอนยันว่า อย่างไรเธอก็ไม่มีวันท้องแน่นอน)  เมื่อสารภาพบาปกับภรรยาเรียบร้อย ไมเคิลก็ต้องหอบผ้าผ่อนออกมาอยู่ห้องเช่าแคบๆกับภรรยาและลูกน้อย โดยที่เหลือเงินติดตัวไม่มากนัก และเมื่อครบกำหนดตรวจร่างกายประจำปี หมอยังตรวจพบว่า ไมเคิลเป็นเนื้องอกในสมองชนิดที่ต้องผ่าตัดด่วน! .. เป็นไงล่ะครับ ปัญหามากพอรึยัง?
อันว่าสังคมอเมริกา คนป่วยไข้อยู่ได้ด้วยระบบประกันสังคม แต่ตอนนี้.. ไมเคิล ไม่มีงานทำ ประกันสังคมก็ถูกยกเลิก กำหนดผ่าตัดสมองที่หมอนัดก็เหลือเวลาอีกไม่กี่เดือน เขาจำเป็นต้องหางานทำโดยด่วน เพื่อให้ชีวิตเขาอยู่รอดต่อไปได้จนลูกคนล่าสุดเป็นหนุ่ม
ในวันที่ไปนั่งเหม่ออยู่ในร้านสตาร์บัคส์แห่งหนึ่ง ไมเคิลก็คงคิดหางานทำ
ใช่แล้ว ผมต้องการงานทำ ผมไม่เคยพูดถ้อยคำนี้มานานสามสิบห้าปี นับแต่ผมเข้าทำงานที่เจดับเบิลยูที และสิบปีแล้วที่ถูกไล่ออกจากเจดับเบิลยูที..
ชีวิตของไมเคิลผกผันอีกครั้ง เมื่อ-คริสตัน ผู้จัดการร้านสตาร์บัคส์แห่งหนึ่ง หันมาถามเล่นๆกับไมเคิลว่า อยากทำงานในร้านสตาร์บัคส์ที่เธอดูแลหรือไม่ไมเคิลรีบตอบตกลงทันทีว่าเขาอยากทำงานในร้านสตาร์บัคส์ นั่นก็เล่นเอาคริสตัน หญิงสาวผิวสีวัยเกือบ ๓๐ ตกตะลึง!
หากคุณเป็นผู้บริหารระดับสูงในองค์กรอะไรก็แล้วแต่ ลองหลับตานึกภาพตัวเองกำลังยืนถูพื้นอยู่ในร้านกาแฟ ถึงมันจะเป็นร้านกาแฟระดับโลกที่ชื่อสตาร์บัคส์ก็เถอะ ผมล่ะอยากรู้จริงๆว่าคุณจะปั้นหน้าตาอย่างไร? เมื่อลูกน้อง เพื่อน หรือลูกๆของคุณที่มาพร้อมกับเพื่อนๆ เดินเข้ามาในร้านกาแฟที่คุณกำลังถูพื้น จากนั้นคุณก็ต้องขอตัวไปล้างห้องน้ำ
เล่มนี้สนุกตรงที่เรื่องเล่าเกี่ยวกับสิ่งที่ไมเคิลต้องรับมือ ไม่ว่าจะเป็นการทำงานร่วมกับคนหนุ่มสาว ที่ครั้งหนึ่งเขามองคนเหล่านี้เป็นเพียงคนไร้ค่า และพร้อมที่จะขย่ำได้ทุกเมื่อที่เห็นว่าขัดหูขัดตา หลายคนเคยร้องไห้เพราะถูกเขาต่อว่าและเชิญออกจากห้องทำงานอย่างไร้ความปราณี
จะว่าไปแล้ว ไมเคิลก็ไม่ใช่คนดีเด่ที่ไหนหรอก สมัยที่ยังรุ่งเรืองในหน้าที่การงาน เขาออกจะโหดเหี้ยมกับผู้คนรอบข้างเสียด้วยซ้ำไป เมื่อตกอับ.. ก็เหมือนเวรกรรมไล่ตามหลังล่ะครับ






หลังจากที่ได้อ่านหนังสือเล่มนี้จบ ทำให้ผมคิดได้ว่า ชีวิตของคนเรานั้นไม่แน่นอน ขนาดคนที่ทำงานในระดับสูงยังสามารถตกงานแบบไม่ทันตั้งตัวได้  แล้วกับคนธรรมดาอย่างเราล่ะ ?? จะเกิดอะไรขึ้นกับเราได้บ้าง ดังนั้นผมจึงคิดเตรียมพร้อมให้กับตัวและหัวใจของตัวเอง ว่าอาจได้พบเจอกับเรื่องราวต่างๆ ที่ไม่คาดคิดได้อยู่เสมอๆ ไม่ตื่นตระหนกไปกับมัน และยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้น 



แล้วคุณล่ะ!! ได้เตรียมใจ
กับเรื่องที่ไม่คาดคิดไว้บ้างหรือยัง 


วันพฤหัสบดีที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2555

มารู้จักกับโมเด็มกันเถอะ



สวัสดีครับวันนี้ผมจะมานำเสนอข้อมูลที่เกี่ยวกับโมเด็ม อุปกรณ์ที่ทุกๆคนใช้ในการเข้าอินเทอร์เน็ตกัน โมเด็มที่เราใช้มีกี่แบบ และแบบที่เราใช้เป็นยังไง วันนี้จะได้รู้กันครับ





โมเด็ม (Modem)
เป็นอุปกรณ์สำคัญที่ใช้ในการติดต่อสื่อสาร และรับส่งข้อมูลกันบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์หลายๆเครื่อง โดยอาศัยตัวกลางจำพวกสายโทรศัพท์และสาย Fiber Optic ในการส่งผ่านข้อมูล หลักการทำงานโดยคร่าวๆของโมเด็มก็คือ เปลี่ยนข้อมูลที่อยู่ในรูปแบบของสัญญาณดิจิตอลให้เป็นสัญญาณเสียงเพื่อให้สามารถส่งผ่านไปตามสายโทรศัพท์ได้ และในทางกลับกันก็รับเอาสัญญาณเสียงที่ถูกส่งผ่านมาตามสายโทรศัพท์จากโมเด็มอีกฟากหนึ่งมาแปลงกลับให้เป็นข้อมูลในรูปแบบของสัญญาณดิจิตอลแบบเดิม ปัจจุบันโมเด็มที่มีวางขายและใช้งานกันโดยทั่วไป ถ้าแบ่งออกตามเทคโนโลยีที่ใช้ในการสื่อสารข้อมูลจะแบ่งออกได้ 2 ชนิด คือ

Dial-Up Modem (56K Dial-UP)
เป็นโมเด็มแบบอนาล็อคที่ใช้ในการรับส่งสัญญาณผ่านระบบโทรศัพท์แบบธรรมดา เวลาเชื่อมต่อกับระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตในแต่ละครั้งจำเป็นจะต้องหมุนหมายเลขโทรศัพท์ไปยังผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP) ด้วย มาตรฐานล่าสุดที่ใช้กันในปัจจุบัน คือ V.92 ซึ่งให้ Bit Rate หรืออัตราความเร็วในการรับส่งข้อมูลสูงสุดที่ 56/33.6 Kbps (รับข้อมูลขาลงจากอินเทอร์เน็ต หรือ Download ที่ความเร็ว 56 Kbps และส่งข้อมูล ขาขึ้น Upload ที่ความเร็ว 33.6 Kbps) ในระหว่างใช้งานอินเทอร์เน็ตจะไม่สามารถใช้โทรศัพท์ปกติไปพร้อมๆกันได้

ADSL Modem (High-Speed Internet)
เป็นโมเด็มแบบดิจิตอลที่ใช้เทคโนโลยีในการติดต่อสื่อสารและรับส่งข้อมูลกันด้วยระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงบนคู่สายโทรศัพท์แบบธรรมดา โดยเลือกใช่ย่านความถี่ที่ไม่มีในการใช้งานอินเทอร์เน็ต  อีกทั้งเวลาเชื่อมต่อกับระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตในแต่ละครั้ง ก็ไม่จำเป็นต้องหมุนหมายเลขโทรศัพท์เหมือนกับ 56k Dial-Up อีกด้วย ปัจจุบันเทคโนโลยีเครือข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง (High-Speed Internet) และโมเด็มของ ADSL นี้กำลังเป็นที่นิยมและได้กลายเป็นมาตรฐานที่ใช้งานกันโดยทั่วไป ซึ่งผู้ใช้สามารถเลือกใช้ความเร็วได้ตามต้องการจากผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP) เช่น 256/128, 512/256 และ 1024/512 Kbps เป็นต้น โดยแต่ละความเร็วจะมีอัตราค่าบริการแตกต่างกันไปสำหรับอัตราความเร็วในการรับส่งข้อมูลสูงสุดด้วยระบบ ADSL ในปัจจุบันจะอยู่ที่ 8192/1024 Kbps หรือก็คือ รับส่งข้อมูลขาลงจาก ISP (Download) ด้วยความเร็วสูงสุด 16 Mbps และส่งข้อมูลขาขึ้นไปหา ISP (Upload) ด้วยความเร็วสูงสุด 1 Mbps

วันจันทร์ที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2555

เทคโนโลยีในศตวรรษที่21

        ในยุคที่โลกเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว  ยุคที่เทคโนโลยีเข้ามาเป็นปัจจัยหนึ่งในชีวิต ทั้งด้าน การดำเนินชีวิต การงานการประกอบอาชีพ การแพทย์ และยังรวมไปถึง การศึกษา” ซึ่งเทคโนโลยี ทำให้คนที่สามารถปรับตัวได้ทันในยุคนี้ได้รับความสะดวกสบาย รวดเร็ว ทันสมัย ทันโลก ทันต่อเหตุการณ์  แต่ก็ยังมีอีกหลายคนเช่นกันที่ไม่สามารถปรับตัวได้ทัน ทำให้เขาเหล่านั้นเข้าถึงข่าวสารและเรียนรู้ความเป็นไปของโลกนี้ได้ช้ากว่าผู้อื่น





        ปัจจุบันมีสื่อหลายรูปแบบที่จะตอบสนองความต้องการของผู้เรียน เพื่อให้ผู้เรียนเข้าถึง ข้อมูล ความรู้ ที่ผู้สอนหรือผู้ถ่ายทอดจะถ่ายทอดให้แก่ผู้เรียน โดยผู้สอนจะถ่ายทอดความรู้โดยใช้สื่อเป็นตัวกลางในการถ่ายทอดความรู้ให้แก่ผู้เรียน สื่อโทรทัศน์ก็เป็นสื่อการเรียนการสอนรูปแบบหนึ่งที่นิยมใช้กันมาก เพราะสื่อโทรทัศน์ที่ให้ทั้งภาพและเสียง สามารถถ่ายทอดเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนั้นมาให้ผู้ดูได้ชม เสมือนหนึ่งได้ร่วมอยู่ในเหตุการณ์นั้นด้วย โทรทัศน์เป็นสื่อมวลชน จึงมีอิทธิพลต่อการดำเนินชีวิต ความคิด ความเชื่อถือของผู้คนอย่างมาก และเป็นพลังในการหันเหความคิดและพฤติกรรมของบุคคล นอกจากเราจะรับชมโทรทัศน์ผ่านคลื่นวิทยุแบบปกติแล้ว ปัจจุบันด้วยเพราะเทคโนโลยีมีความทันสมัย สะดวกรวดเร็วขึ้นทำให้เราสามารถรับชม และรับดูโทรทัศน์ผ่านระบบเครือข่ายบรอดแบนด์บนอินเทอร์เน็ตได้ ทำให้ผู้ชมได้มีทางเลือกในการณ์รับชมโทรทัศน์มากขึ้น ใช้ระบบอินเทอร์เน็ตผ่านเครือข่ายสู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ ทั้งนี้นอกจากจะใช้โทรทัศน์เพื่อการรับชมสาระและความบันเทิงแล้ว การรับชมโทรทัศน์ผ่านทางอินเทอร์เน็ตยังสามารถประยุกต์ใช้เป็นสื่อการศึกษาให้กับผู้เรียนได้เป็นอย่างดี 



        แต่ในวันนี้เราจะพูดถึงโปรแกรมหนึ่งที่เป็นรากฐานสำคัญในการทำชั้นเรียน e-learning หรือ ชั้นเรียนต่างๆที่เก็บข้อมูลไว้ในคอมพิวเตอร์แล้วมีการเรียนการสอนกันเกิดขึ้นผ่านทางคอมพิวเตอร์ขึ้น ซึ่งก็คือ โปรแกรม มูเดิ้ล นั่นเอง 


        มูเดิ้ล คืออะไร (What is Moodle?)

มูเดิ้ล (Moodle = Modular Object-Oriented Dynamic Learning Environment) คือ โปรแกรมที่ประมวลผลในเครื่องบริการ (Server-Side Script) ทำหน้าที่ให้บริการระบบอีเลินนิ่ง ทำให้ผู้ดูแลระบบสามารถเปิดบริการแก่ครู และนักเรียน ผ่านบริการ 2 ระบบ คือ 1)ระบบซีเอ็มเอส หรือระบบจัดการเนื้อหา (CMS = Course Management System) บริการให้ครูสามารถจัดการเนื้อหา เตรียมเอกสาร สื่อมัลติมีเดีย แบบฝึกหัดตามแผนการจัดการเรียนรู้ 2)ระบบแอลเอ็มเอส หรือระบบจัดการเรียนรู้ (LMS = Learning Management System) บริการให้นักเรียนเข้าเรียนรู้ตามลำดับ ตามช่วงเวลา ตามเงื่อนไขที่ครูได้จัดเตรียมอย่างเป็นระบบ และประเมินผลการเรียนรู้ของนักเรียน พร้อมแสดงผลการตัดเกรดอัตโนมัติ
ปัจจุบันมีโปรแกรมที่ทำหน้าที่เป็นเพียงระบบซีเอ็มเอส(ไม่มีระบบแอลเอ็มเอสในตัว) สามารถสร้างวัตถุเรียนรู้จากนอกมูเดิ้ล แล้วนำเข้าไปใช้งานในมูเดิ้ล เช่น สกอร์ม (SCORM = Sharable Content Object Reference Model) ที่สามารถนำไปติดตั้งเป็นส่วนหนึ่งในมูเดิ้ล หรือโปรแกรมเลินสแควร์ (Learnsquare) ได้





เห็นไหมละครับ โปรแกรมที่มาแนะนำวันนี้ไม่ธรรมดาเลย เพียงแค่รู้จักชื่อและคุณสมบัติเบื้องต้น ก็เหมือนกับได้เปิดโลกทัศน์ใหม่ๆ มุมมองใหม่ๆทางการศึกษาได้แล้ว ว่าเราไม่ต้องทำการเรียนการสอนกันแบบตัวต่อตัวกันเหมือนแต่ก่อนแล้ว แต่เราสามารถเรียนผ่านคอมพิวเตอร์อยู่ที่บ้านได้อย่างง่ายดาย ถ้าหากเพื่อนๆสนใจในตัวโปรแกรมนี้ เพื่อนๆก็สามารถตามไปยังลิงค์ด้านล่างนี้ได้เลยครับ



แหล่งข้อมูล

       

วันอังคารที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ศูนย์สื่อนั้น สำคัญไฉน??


        สวัสดีคร้าบบบบบบ  วันนี้เป็นวันดี ที่ผมจะได้เขียนบลอคใหม่นี้เป็นครั้งแรกกกกกก เย้ !!!! >O< " ในฐานะที่ผมกำลังศึกษาอยู่เอกเทคโนโลยีสื่อสารการศึกษา ดังนั้นนนน ผมจะเขียนเรื่องเกี่ยวกับอย่างอื่นไม่ได้เลย   แน่นอนว่าเรื่องที่จะเขียนขึ้นนี้เกี่ยวกับเทคโนโลยีล้วนๆ (/=w=)/ 

         นับวันเทคโนโลยีเริ่มจะเข้ามามีบทบาทในชีวิตของมนุษย์มากขึ้นเรื่อยๆ มีหลากหลายรูปแบบ และใช้งานกันอย่างแพร่หลาย เทคโนโลยีสมัยนี้ใช้งานง่ายไม่ซับซ้อน  นี้จึงเป็นเหตุผลที่ในปัจจุบันเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในชีวิตของมนุษย์เรา โดยเฉพาะในวงการการศึกษา เทคโนโลยีสามารถช่วยทำให้การเรียนการสอนดีและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ดังนั้นจึงมีการส่งเสริมศูนย์บริการสื่อและเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการศึกษาต่อสถาบันการศึกษาในระดับอุดมศึกษา ศูนย์บริการสื่อและเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการศึกษาจึงถือเป็นสถานที่ที่มีความสำคัญมาก เพราะเป็นที่ให้ความรู้แก่นิสิตนักศึกษา และบุคคลทั่วไปมากมาย เป็นแหล่งศึกษาค้นคว้าหาคำตอบ ความรู้เพิ่มเติม อีกทั้งแหล่งพักผ่อนหย่อนใจ ผ่อนคลายความเครียดอีกด้วย ถ้าจะแบ่งเป็นข้อๆให้ชัดเจนแล้ว จะได้ดังข้างล่างนี้


        ความสำคัญของศูนย์บริการสื่อและเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการศึกษาในระดับอุดมศึกษา1.เป็นแหล่งค้นคว้า หาความรู้ สำหรับนิสิต นักศึกษา ครูอาจารย์และบุคคลทั่วไป2.เป็นแหล่งที่ผลิตและเผยแพร่สื่อการสอนในรูปแบบต่างๆ เช่น การผลิตรายการวิทยุโทรทัศน์การผลิตวิดีทัศน์เพื่อการศึกษา การผลิตสื่อการสอนในรายวิชาต่างๆ การผลิตสื่อคอมพิวเตอร์ช่วยสอน3.เป็นแหล่งที่ให้บริการยืมและสนับสนุนสื่อการเรียนการสอนในรูปแบบต่างๆ มีการติดตั้งระบบเครือข่าย มีการเชื่อมโยงระหว่างศูนย์บริการสื่อฯ4.เป็นแหล่งเก็บรักษา บำรุง และซ่อมแซมสื่อทุกชนิด ให้มีสภาพพร้อมใช้งาน5.เป็นแหล่งจัดเตรียม จัดหาข้อมูลสารสนเทศ แก่ผู้ใช้บริการเป็นประจำ ให้ทราบถึงวัสดุอุปกรณ์ สิ่ง อำนวยความสะดวก เช่น ประกาศ สาธิต จัดนิทรรศการ เสนอข่าว จัดประชุมปฏิบัติการ ออกวารสาร ฯลฯ6.สามารถเป็นสถานที่พักผ่อนของบุคคลผู้มาใช้บริการ สถานที่ไม่อึดอัดคับแขบ มีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม7.ให้ข้อเสนอแนะ หรือคำแนะนำแก่บุคคลผู้สนใจเกี่ยวกับสื่อและเทคโนโลยี ทั้งการเลือกใช้ การผลิต การรวมไปถึงการบำรุงรักษาสื่อต่างๆที่ให้ใช้บริการ8.มีการประเมินผล ความพึงพอใจของบุคคลที่มาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง เพื่อนำมาปรับปรุงศูนย์ให้มีความก้าวหน้ายิ่งๆขึ้นไป



   เนื่องจากตัวของผมเองอาศัยอยู่ทางด้านฝั่งธนบุรี ทำให้ได้รู้จักชื่อเสียงของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี แห่งนี้มาตั้งแต่ยังเป็นเด็กๆ ทั้งยังอยู่ใกล้บ้านและได้เคยแวะเวียนไปใช้บริการ ผมจึงอยากจะนำเสนอศูนย์สื่อของมหาวิทยาลัยแห่งนี้ ซึ่งก็คือ หอสมุดมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี

ปัจจุบันสำนักหอสมุด มีทรัพยากรสารสนเทศในสาขาวิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ เทคโนโลยี พลังงาน เทคโนโลยี- ชีวภาพ เทคโนโลยีวัสดุ ฯลฯ และสาขาวิชาที่เกี่ยวข้อง สำหรับให้บริการดังนี้
หนังสือ มีทั้งภาษาไทย และภาษาอังกฤษ
วารสาร มีทั้งภาษาไทย และภาษาอังกฤษ
วิทยานิพนธ์
วีดีทัศน์, ซีดีรอม, ดีวีดี, วีซีดี
มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมไทย ทุกรายการ



การแนะนำการสืบค้นข้อมูล
ผู้ใช้ที่ประสงค์จะขอรับคำแนะนำในการสืบค้นข้อมูล สามารถติดต่อ บรรณารักษ์ ได้ทุกเคาน์เตอร์ทุกชั้น

ฐานข้อมูลเอกสารฉบับสมบูรณ์ในรูปอิเล็กโทรนิกส์ (Digital Collection)
ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และพระปรีชาสามารถของ พระบาทสมเด็จ- พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 4 สำนักหอสมุดได้น้อมนำ พระราชประวัติ และพระราชกรณียกิจของพระองค์ท่านมาจัดเก็บเอกสารฉบับสมบูรณ์ในรูป
อิเล็กทรอนิกส์ เพื่อผู้ใช้เข้าถึงได้ตลอดเวลา ผู้สนใจสืบค้นข้อมูลได้จาก http://digital.lib.kmutt.ac.th/main.php นอกจากนี้ยังได้นำ วิทยานิพนธ์ งานวิจัยของอาจารย์ วารสารวิจัย และพัฒนาของมหาวิทยาลัย และหนังสือ
เก่า ที่มีคุณค่ามาจัดเก็บเป็นเอกสารฉบับสมบูรณ์ ในรูปอิเล็กโทรนิกส์ด้วย ผู้สนใจสามารถสืบค้นข้อมูลได้




บริการแพร่ภาพ (Broadcast) การเรียนการสอน
ผู้สนใจสามารถรับชม และรับฟังได้จากคอมพิวเตอร์ ที่เชื่อมต่อกับ ระบบเครือข่าย ของมหาวิทยาลัย ที่ http://digital.lib.kmutt.ac.th




สำนักหอสมุด มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
เวลาทำการ:
ภาคปกติ: จ - อา 08.00-21.00 น.
ภาคฤดูร้อน: จ - อา 08.00-17.00 น.
ยกเว้น วันหยุดนักขัตฤกษ์
โทรศัพท์: 0-2470-8211
โทรสาร: 0-2470-8212
เว็บไซต์: http://www.lib.kmutt.ac.th
อีเมล์: info@lib.kmutt.ac.th



      ได้เห็นอย่างนี้แล้ว เพื่อนๆอย่าลืมที่จะแวะไปศูนย์สื่อที่ใกล้เคียงเพื่อหยิบยืมสื่อเพื่อนำมาใช้เพิ่มประสิทธิภาพให้กับการเรียนการสอนของตนเองนะครับวันนี้ผมต้องขอลาไปก่อน แล้วครั้งหน้าจะนำข้อมูลดีๆกลับมานำเสนอเพื่อนๆอีกนะคร้าบบบบบบบ ^_^